คำนำหนังสือ : หนังสือตำราคนไม่อยากแก่ “3rd Edition” โดย ผศ.ดร.นพ.พัฒนา เต็งอำนวย
ไม่มีใครอยากเจ็บป่วย ไม่มีใครอยากแก่ชรา แต่ความจริงก็คือเราหนีสิ่งทั้งสองนี้ไม่ได้ แต่จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า เราอาจจะชะลอมันได้ เพื่อสุขภาพที่ดีและชีวิตที่ยืนยาว
ผู้หญิงอาจจะกังวลถึงความชรา เพราะกลัวถึงริ้วรอยและความเหี่ยวย่น ที่มากับวัย ผู้ชายจะกังวลในเรื่องของสมรรถภาพของตนเอง แต่ความชราคือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเซลล์ทุกๆ เซลล์ในร่างกาย และเกิดกับทุกๆ อวัยวะ การป้องกันความชราจึงต้องใช้หลักการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อให้ทุกเซลล์และ ทุกอวัยวะมีสภาพที่ดีและทำงานเป็นปกติ
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นจากการประมวลความรู้ทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์การแพทย์เข้าด้วยกัน ร่วมไปกับประสบการณ์ของผู้เขียนในการดูแลผู้ป่วย (อยากจะขอย้ำว่า คนไทยคิดเองได้) โดยต้องการให้เป็นหลักแห่งสุขภาพที่เข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้คนที่อ่านสามารถปฏิบัติได้ด้วยความเข้าใจ ถึงเหตุและผล มากกว่าที่จะปฏิบัติด้วยความเชื่องมงาย หลังจากอ่านจบครั้งแรก อยากให้ผู้อ่านอ่านทบทวน โดยเฉพาะหากมีคำถามเกี่ยวกับอาหารและสุขภาพ และผู้อ่านจะพบว่ามีคำตอบอยู่ในหนังสือแล้ว เพราะการอ่านเที่ยวเดียว จะไม่สามารถเข้าใจหรือจดจำได้หมด
ถึงแม้จะเป็นตำราที่เขียนให้อ่านง่าย แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนทางด้าน วิทยาศาสตร์การแพทย์ อาจจะรู้สึกว่ายากเกินไป (โดยเฉพาะบทแรกที่ดูจะยากกว่าบทอื่นๆ) ก็ขอให้อ่านผ่านไปเฉพาะส่วนที่เข้าใจง่ายก่อน และกลับมา อ่านส่วนที่เหลือทวนซ้ำอีก ก็น่าจะสามารถเข้าใจได้ แต่สำหรับผู้อ่านที่รู้สึกว่า ง่ายเกินไป และต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ ก็อาจจะหาอ่านเพิ่มเติมได้จากเอกสารอ้างอิงน่าสนใจที่มีระบุไว้ท้ายเล่ม ซึ่งหากมีความผิดพลาดประการใด
ผู้เขียนขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ผู้เขียนขอขอบคุณ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ. วิศิษฎ์ สิตปรีชา ผู้ให้แรงบันดาลใจ, Dr. C. Craig Tisher, Dr. Kirsten Madsen ผู้ให้การ สนับสนุน, Dr. Christopher M. West และ Dr. Maurice S. Swanson ที่ได้ให้ความรู้และประสบการณ์ ทำให้ผู้เขียนเข้าใจและบรรลุถึงการเป็น "นักวิทยาศาสตร์" ได้สำเร็จ, ผู้เขียนขอขอบคุณคณาจารย์จากโรงเรียนแพทย์ทุกท่าน ที่ได้ให้ความรู้ และสอนคุณธรรม ซึ่งช่วยให้ผู้เขียนตระหนักถึงการเป็นแพทย์ที่ดี, ขอขอบคุณ พญ. พักตร์พิไล ทวีสิน ผู้ชักจูงผู้เขียนเข้าสู่วงการเวชศาสตร์ชะลอวัย, ขอบคุณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่ให้โอกาสผู้เขียนในการเปิดหลักสูตรวิทยาการชะลอวัย ผู้เขียนขอขอบคุณเพื่อนร่วมงาน ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันที่ช่วยให้ข้อคิด ประสบการณ์ จากการได้ทำงานร่วมกัน และขอบคุณคนไข้ทุกคน ซึ่งผู้เขียนถือว่าเป็นครู
(ชำระผ่านบัตรเครดิต คิดค่าธรรมเนียม 3%)